วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แม่น้ำไรน์สายน้ำแห่งชีวิต

             ดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์นี้มีเมืองเก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีความคลาสสิกของปราสาทโบราณทอดวางเรียงรายตามลุ่มแม่น้ำ ซึ่งในปัจจุบันบริเวณนี้ได้กลายเป็นแห่งเพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งการเกษตรที่สำคัญของประเทศเยอรมันแม่น้ำไรน์ (Rhine River) มีความยาว 1,320 กิโลเมตร ยาวและสำคัญที่สุดของยุโรป โดยไหลผ่านสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน  ออสเตรีย  ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์
             จุดเริ่มต้นของแม่น้ำไรน์มาจากภาคกลางของสวิสเซอร์แลนด์ผ่านตอนเหนือของเมือง Basel และไหลผ่านจากชายแดนระหว่างเยอรมัน (โดยเฉพาะภูเขา Black Forest) และฝรั่งเศสจนกระทั่งถึงเมือง Karlsruhe
            
ระหว่างที่ล่องแม่น้ำไรน์ชมวิวทิวทัศน์สองข้างฝั่งแม่น้ำ 
หากทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสจะรู้สึกถึงว่าทำไมประเทศเยอรมันหรือประเทศในยุโรปจึงก้าวหน้าและพัฒนาได้ดีกว่าประเทศทางตะวันออก

อย่างแรก :  การขนส่งทางน้ำเป็นการขนส่งที่ต้นทุนถูกมากๆ และยิ่งแม่น้ำไรน์ทอดยาวไปทั่วยุโรปตะวันตก ซึ่งไปออกทะเลที่เนเธอร์แลนด์  ยิ่งทำให้การคมนาคมทางน้ำกลายเป็นหัวใจหลักของแต่ละประเทศที่แม่น้ำไหลผ่าน  2  ฝั่งแม่น้ำดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย

อย่างที่สอง :  เมื่อเป็นดังนั้นสองฝั่งแม่น้ำยังมีการขนส่งมวลชนอีก 2 อย่างคือ ถนนสำหรับรถยนต์และรถไฟสำหรับการเดินทาง  หมายความว่า การตัดถนนและทำทางรถไฟ สองข้างทางเป็นสุดยอดของระบบขนส่งที่ลงทุนหนเดียวคือการป้องกันไม่ให้แม้น้ำเซาะฝั่งไปในคราวเดียวกัน

ขณะเดียวกันพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำก็ทำประโยชน์อะไรยากจึงทำเส้นทางการเดินทางที่สะดวกและเป็นชุมชนไปในตัว

อย่างที่สาม : เมื่อมีการคมนาคมที่สะดวกจึงเกิดเป็นชุมชนที่แลกเปลี่ยนสินค้าหรือการค้า  มีการเก็บค่าขึ้นระวางสินค้า ดังนั้นตลอดเส้นทางจะมีร้านอาหาร ภัตตาคารและโรงแรมเล็กๆ ที่ดูสวยงาม สามารถพักดื่มด่ำบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำไรน์ได้เป็นอย่างดี